Authorบุญยง จารุจิตร
Titleความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครู เกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดีจากการจัดกิจกรรมนักเรียน ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตการศึกษา 9 / บุญยง จารุจิตร = Opinions of school administrators and teachers concerning citizenship characteristics derived from organizing student activity programmes in the upper secondary schools in educational region nine / Boonyong Jarujitra
Imprint 2528
Connect tohttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/25500
Descript ก-ฐ, 286 แผ่น

SUMMARY

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครู เกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดี จากการจัดกิจกรรมนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตการศึกษา 9 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูเกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดี จากการจัดกิจกรรมนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตการศึกษา 9 วิธีดำเนินการวิจัย การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้กลุ่มตัวอย่างประชากร 2 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 148 คน ครูปฏิบัติการสอน จำนวน 360 คน รวมเป็นจำนวนประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ทั้งสิ้น 508 คน ซึ่งเลือกมาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือในการวิจัย ใช้แบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดี จากการจัดกิจกรรมนักเรียนในโรงเรียน ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเอง และนำไปเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง มีลักษณะเป็นแบบสำรวจรายการ (Check List) และแบบมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) จากแบบสำรวจที่ส่งไปจำนวน 508 ฉบับ ได้รับกลับคืนมา 492 ฉบับ หรือร้อยละ 96.85 สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการทดสอบค่าที (t-test) โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องสมองกล (Computer) และใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูปทางด้านสังคมศาสตร์ SPSS (Statistical Package for the Social Sciences) ของสถาบันบริการคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลการวิจัย ผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้พอสรุปได้ดังนี้ 1. เกี่ยวกับสภาพการจัดกิจกรรมนักเรียนในโรงเรียนในปีการศึกษา 2526 พบว่า กิจกรรมลูกเสือ หรือยุวกาชาด หรือเนตรนารี หรือผู้บำเพ็ญประโยชน์ หรือรักษาดินแดน กิจกรรมส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ และกิจกรรมส่งเสริมวิชาการต่าง ๆ ในหลักสูตร โรงเรียนในกลุ่มตัวอย่างจัดดำเนินการทุกโรงเรียน กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย กิจกรรมศาสนา และกิจกรรมการใช้ห้องสมุด มากกว่าร้อยละ 95 ของโรงเรียนจัดดำเนินการ ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ จัดดำเนินการเป็นอันดับรอง ๆ ลงไป และกิจกรรมส่งเสริมการใช้สินค้าไทยเป็นกิจกรรมที่โรงเรียนจัดดำเนินการน้อยที่สุด 2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูเกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดีในแต่ละกิจกรรม พบว่ากิจกรรมลูกเสือ หรือยุวกาชาด หรือเนตรนารี หรือผู้บำเพ็ญประโยชน์ หรือรักษาดินแดน เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดลักษณะความเป็นพลเมืองดีด้านการมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในระดับมากที่สุด และก่อให้เกิดลักษณะความเป็นพลเมืองดีในด้านต่าง ๆ
ในระดับมากเกือบทุกด้าน รวม 34 ด้าน ยกเว้นด้านการมีความกระตือรือร้นและมุ่งอนาคต ซึ่งก่อให้เกิดในระดับน้อย ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ก่อให้เกิดลักษณะความเป็นพลเมืองดีในระดับมากได้เพียงบางลักษณะ เว้นแต่กิจกรรมส่งเสริมการใช้สินค้าไทย และกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งก่อให้เกิดลักษณะความเป็นพลเมืองดีในระดับมากได้น้อยด้าน 3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูเกี่ยวกับลักษณะความเป็นพลเมืองดีในแต่ละลักษณะทั้ง 36 ด้าน พบว่า ลักษณะความเป็นพลเมืองดีด้าน การมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย การมีความสามัคคี การมีสุขภาพจิตดี และด้านการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นลักษณะความเป็นพลเมืองดีที่สามรถก่อให้เกิดขึ้นได้ในระดับมากถึง 6 และ 5 กิจกรรมตามลำดับ ส่วนลักษณะความเป็นพลเมืองดีด้านอื่น ๆ สามารถก่อให้เกิดขึ้นได้ในระดับมากในบางกิจกรรม 4. ในการวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน และครู พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเกือบทุกกิจกรรมที่โรงเรียนจัดดำเนินการ ยกเว้นกิจกรรมการใช้ห้องสมุด กิจกรรมส่งเสริมการใช้สินค้าไทย กิจกรรมทัศนศึกษา และกิจกรรมส่งเสริมวิชาการต่าง ๆ ในหลักสูตร ซึ่งผู้บริหารและครูมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน


SUBJECT

  1. หน้าที่พลเมือง
  2. กิจกรรมของนักเรียน