Page 42 - Newsletter_01_2567
P. 42
40
เสียงที่เปลี่ยน... เมื่อการพูดคุยนำไปสู่การแพร่เชื้อโรคระหว่างกัน
ก้องเวหา อินทรนุช
การเกิดของโรคอุบัติใหม่ส่งผลให้วิธีการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจากปรกติเก่าอย่างมาก และสร้างความตระหนักให้แก่เรา
ทุกคนเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนสังคม อย่างไรก็ตาม คำถามที่อาจผุดขึ้นมาผ่านวิถีปรกติใหม่ คือ แล้วเชื้อโรคเหล่า
เริ่มแพร่กระจายได้อย่างไร วันนี้เราจะไขข้อฉงนโดยเชื่อมโยงผ่านมุมมองการใช้ภาษาไทยกัน
เมื่อกล่าวถึงการแพร่กระจาย สิ่งแรกที่คนมักคิดว่ามีผลต่อการแพร่เชื้อโรคมากที่สุดคือ “การไอจาม” เนื่องจาก
กระแสลมที่พุ่งออกจากปอดและอนุภาคละอองฝอย (droplet) ที่ประจักษ์ได้ด้วยสายตา แต่ในความจริงแล้ว
การศึกษาในปัจจุบันได้เปรียบเทียบรูปแบบที่มีผลต่อการแพร่ ได้แก่ การไอ การจาม การพูด การหายใจ พบว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับการไอและการจาม การพูดสามารถแพร่กระจายได้ในระดับเดียวกัน อีกทั้งการพูดมีแนวโน้มต่อ
การแพร่เชื้อได้มากกว่าด้วยขนาดของอนุภาคที่เล็กกว่าและคงตัวอยู่ในอากาศได้นานกว่าอย่าง “อนุภาคละออง
ลอย (aerosol)”
แล้วลักษณะใดในการพูดที่มีผลต่อการแพร่ละอองลอยล่ะ?
จากการศึกษาชี้ให้เห็นลักษณะ 2 ประการที่เป็นฟันเฟืองในการแพร่ละอองลอย คือ ความก้อง (voice) ที่สร้าง
ละอองลอย และลมหายใจที่นำพาออกมา โดยความก้องสามารถเกิดได้จากการออกเสียงพยัญชนะภาษาอังกฤษ
เช่น /v/, /z/, /d/, /b/, /m/, /n/ และรวมถึงสระทุกตัว ซึ่งการออกเสียงเหล่านี้จะเกิดการสั่นในกล่องเสียงทำให้
เมือก (mucus) แล้วถูกนำพาออกมาด้วยลมหายใจขณะพูด นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการพูดถึงมีผลต่อการแพร่
เชื้อในระดับเดียวกับการไอและการจาม รวมถึงการพูดเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันมากกว่าการไอและการจาม
แปลว่าเราควรเลี่ยงเสียงก้องที่มีผลต่อการแพร่ละอองลอยใช่หรือไม่
แม้ว่าเสียงก้องที่เกิดจากทั้งสระและพยัญชนะจะเป็นกลไกในการสร้างละอองลอย แต่หากเปรียบเทียบในลักษณะ
การออกเสียงกลับพบว่าเสียงพยัญชนะกัก (plosives) และพยัญชนะนาสิกปล่อยลอยละอองลอยมากกว่า
พยัญชนะประเภทอื่น อย่างไรก็ตาม พยัญชนะที่น่ากังวลคือ พยัญชนะกักเนื่องจากการกักลมทำให้เกิดแรงดัน
ภายในช่องปากจึงมีผลต่อการแพร่กระจายในระยะไกลต่างจากพยัญชนะนาสิกที่ต้องอาศัยสภาพแวดล้อมเสียงถึง
จะแพร่ละอองลอยได้ในแบบเดียวกัน ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า สิ่งที่ควรเลี่ยงคือการเลี่ยงออกเสียงพยัญชนะกัก