Page 5 - Newsletter_01_2567
P. 5
3
รู้จัก UV Index ของแสงแดดเมืองไทย เสี่ยงแค่ไหนกับผิวไหม้แดด
ปณิธี เปรมสัตย์ธรรม
ช่วงนี้ก่อนออกจากบ้านหรือต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากต้องเข้าแอปพลิเคชันเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 แล้ว
CURef ขอแนะนำให้เข้าแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศเช็กค่า UV Index ร่วมด้วย
แล้ว UV Index คืออะไร จังหวัดใดที่มีความรุนแรงของแดดสูง
UV Index หรือ ดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ความแรงของแดด เป็นการวัดการแผ่รังสี
อัลตราไวโอเลต (UV) ในพื้นที่หรือเวลานั้น ๆ คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดาในปี ค.ศ. 1994 และได้นำมา
ปรับใช้ใหม่โดยองค์การอนามัยโลก และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกของสหประชาชาติเพื่อให้เป็นมาตรฐานสากล ใน
ปี ค.ศ. 2002
โดยระดับความรุนแรงของ UV Index หรือ ความแรงของแดด สามารถจำแนกได้ดังนี้
สีเขียว (UV Index 0 - 0.29) ระดับความรุนแรงต่ำ ควรสวมแว่นกันแดดในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง
สีเหลือง (UV Index 3 - 5.9) ระดับความรุนแรงปานกลาง ควรปกปิดด้วยเสื้อผ้า เลี่ยงในช่วงเที่ยงวันที่มี
แดดสูง
สีส้ม (UV Index 6 - 7.9) ระดับความรุนแรงสูง ควรปกปิดด้วยเสื้อผ้า สวมหมวก ใส่แว่น ใช้ครีมกันแดดที่มี
SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ อยู่กลางแจ้งไม่ควรเกิน 3 ชั่วโมง
สีแดง (UV Index 8 - 10.9) ระดับความรุนแรงสูงมาก ควรสวมเสื้อผ้ากันแดด สวมแว่นกันแดด สวมหมวก
ปีกกว้าง ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ ไม่ควรอยู่กลางแดดเวลานาน
สีม่วง (UV Index 11+) ระดับความรุนแรงสูงจัด ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมแว่นกันแดด
หมวกที่ปกปิดอย่างมิดชิด ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ PA 3+ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานเกิน 3
ชั่วโมง
สำหรับจังหวัดที่มีระดับความแรงของแดดสูงมากถึงสูงจัด (ตั้งแต่ 10 ขึ้นไป) ในช่วง 5 – 10 กุมภาพันธ์นี้
ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา และนราธิวาส ผู้ที่อาศัยในจังหวัด
เหล่านี้ควรระมัดระวังอย่างมาก หากอยู่กลางแดดเป็นเวลา 30 - 60 นาที ในช่วงที่มีค่า UV Index 3 - 7 หรือเพียง
20 - 30 นาที ในช่วงที่มีค่า UV Index มากกว่า 8 ขึ้นไป อาจทำให้ผิวหนังไหม้แดด (Sunburn) ได้ และในระยะ
ยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังและต้อกระจกตาอีกด้วย