Page 32 - Newsletter_01_2567
P. 32
30
มีการเผาโดยเจตนาของมนุษย์อยู่ประเภทหนึ่ง ที่จะช่วยลดปัญหาการเกิดไฟป่าได้ นั่นก็คือการชิงเผา (Early
Burning) ซึ่งเกิดภายใต้การวางแผนที่ดี มีขอบเขตแน่ชัด เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงที่สะสมอยู่ในป่า ที่อาจจะ
ก่อให้เกิดไฟป่าแบบลุกลามจนเกิดอันตรายได้ โดยการชิงเผาจะมีการกำหนดขอบเขตของไฟ ไม่ให้เกิดการกระจาย
แผ่กว้างไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ ดังนั้น หากเกิดไฟป่าขึ้นมาจริงๆในภายหลัง ความเสียหายก็จะน้อยลง และอยู่ใน
ขอบเขต (การชิงเผาเป็นการทำงานภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและชุมชนท้องถิ่น ประชาชนไม่สามารถ
เผาป่าเองแล้วอ้างว่าเป็นการชิงเผาได้)
อันตรายจากไฟป่า
อันตรายจากไฟป่าในทางตรง คือ การทำลายระบบนิเวศป่า ต้นไม้ถูกเผาทำลาย สัตว์ป่าขาดแหล่งอาหาร, แหล่งที่
อยู่อาศัย หรืออาจถูกไฟไหม้จนตาย คุณภาพของดินเสื่อมโทรม ระบบนิเวศน้ำในบริเวณใกล้เคียงจะเต็มไป
ด้วยเถ้าถ่าน เขม่าควัน ถือเป็นการทำลายสมดุลของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างร้ายแรง ส่วนอันตรายในทางอ้อม ก็คง
หนีไม่พ้นการเกิดหมอกควัน หรือฝุ่นละอองลอยที่เกิดจากเถ้า ปนเปื้อนเข้ามาในชั้นบรรยากาศ โดยฝุ่นละออง
จากไฟป่า มีขนาดตั้งแต่ 2.5 – 10 ไมโครเมตร (PM 2.5 – PM10) อีกทั้งในควันไฟยังมีสารเคมีอันตรายอีกหลาย
ชนิด เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ไนโตรเจนมอนอกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ดังนั้น การหายใจหรือสูดดมอากาศที่มี
ควันไฟปะปนอยู่ หรืออาศัยอยู่ท่ามกลางพื้นที่ที่มีอากาศไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของเรา
เป็นอย่างมาก
ไฟป่าจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่แค่คนในชุมชนละแวกใกล้เคียงเท่านั้นที่ควรมีส่วนร่วม คนไทยทุกคนควรจะ
ตระหนักถึงอันตราย และภัยจากไฟป่า รวมถึงร่วมดูแลรักษาป่าไม้ อันเป็นระบบนิเวศที่สำคัญ และหากพบ
เห็นคนลักลอบเผาป่า จุดไฟเพื่อล่าสัตว์ สามารถโทรแจ้งสายด่วน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เบอร์
1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
**การเผาป่า มีบทลงโทษตามกฎหมาย โดยสามารถศึกษาข้อกฎหมายทีเกี่ยวข้องกับการป้องกันการเผาป่าได้ที่
https://www.forest.go.th/tak4/wp-
content/uploads/sites/41/2018/02/article_20161208113025.pdf

