การทำหน้าที่ของครัวเรือนไทย ภายใต้บริบทสังคมสูงวัย

การทำหน้าที่ของครัวเรือนไทย ภายใต้บริบทสังคมสูงวัย

หนังสือเล่มนี้ เป็นการสังเคราะห์งานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวไทย เพื่อเสริมการทำหน้าที่ของครอบครัวภายใต้บริบทสังคมสูงวัย สกัดองค์ความรู้เกี่ยวกับครอบครัวไทยจากโครงการศึกษาวิจัยที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว. หรือ สกว. เดิม) ได้ให้เงินสนับสนุนการวิจัย ระหว่างปี พ.ศ. 2558 - 2561 โดยนำเสนอเนื้อหา 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 สถานการณ์ครอบครัวไทย ประกอบด้วยเนื้อหา บทนำ ทำไมคนไทยมีลูกน้อย หน้าที่ของครอบครัวในการดูแลเด็ก การดูแลผู้สูงอายุ และ สถานการณ์ครัวเรือนข้ามรุ่น

ส่วนที่ 2 ระบบเกื้อหนุนครอบครัว ประกอบด้วยเนื้อหา บทบาทของรัฐบาลต่อการกินดีอยู่ดีของครัวเรือน บทบาทของภาคเอกชนต่อการกินดีอยู่ดีของครัวเรือน บทสรุปและข้อเสนอแนะ

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


LOCATIONCALL#STATUS
Central Library (5th Floor)306.85 อ286ก 2564CHECK SHELVES

 รู้ไว้บำบัดใจ

รู้ไว้บำบัดใจ

... ปัญหาใจพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย และเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวัน จนบางครั้งอาจรู้สึกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมถึงส่งผลใหญ่หลวงขนาดนั้น เช่น พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของลูก ปัญหาการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของสมาชิกในบ้าน... การทำความเข้าใจ ปรับตัว ยอมรับ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันก็เป็นวิธีเบื้องต้นในการฝ่าฟันปัญหาใจ และหากเราเรียนรู้ปัญหาใจจากแง่มุมที่หลากหลายรวมถึงคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจก็จะสามารถใช้เป็นกรณีศึกษาหากต้องพบเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันหรือคล้ายกันได้ในอนาคต... (คำนำ)

หนังสือนำเสนอความรู้ จิตวิทยา ปัญหาใจ และแนวทางบำบำบัด

บทที่ 1 ว่าด้วยเรื่องจิตวิทยา – จิตวิทยาช่วยเราได้อย่างไร สมองและจิตใจทำงานกันอย่างไร จิตใต้ สำนึกตั้งอยู่ที่ไหน เครื่องมือจับภาพจิตใต้สำนึก

บทที่ 2 จิตวิทยาบำบัดอารมณ์ – อารมณ์ควบคุมหรือกำกับ อารมณ์ทุกข์ อารมณ์เบื่อกับงาน อารมณ์โกรธ อารมณ์กับโซเซียลเน็ตเวิร์ก

บทที่ 3 จิตวิทยากับครอบครัว – ปัญหาครอบครัว ปัญหาคู่สมรส ปัญหาผู้สูงอายุ

บทที่ 4 จิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น – เลี้ยงลูกอย่างไร เพื่อให้ได้อะไร การเล่น การอ่าน การเข้าสังคม

บทที่ 5 จิตวิทยาบำบัดโรค – พันธุกรรมไม่ใช่ฟ้าลิขิต โรคซึมเศร้าอีกครั้งหนึ่ง ความหลากหลายของโรคไบโพลาร์ เรื่องน่ารู้ใหม่เกี่ยวกับนอนไม่หลับ ยาจิตเวชช่วยได้ทุกเรื่องจริงหรือ...

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


LOCATIONCALL#STATUS
Central Library (5th Floor)150 ป421ร 2563CHECK SHELVES
Central Library (5th Floor)150 ป421ร 2563CHECK SHELVES
Medicine LibraryWM140 ป421ร 2563CHECK SHELVES

ทำไมบ้านทำร้ายเรา

ทำไมบ้านทำร้ายเรา

... กรอบความคิดของหนังสือนี้ เป็นหนังสือที่สร้างความอบอุ่นในหัวใจ รวมถึงปัญหาพื้นฐาน วิธีการรักลูกที่น่าจะสร้างความสั่นสะเทือน บอกเล่าตามความเป็นจริงและเจาะลึก และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ ทฤษฎีจิตวิทยาที่จะทำให้เรามองเห็นชัดเจนว่า กลไกของครอบครัวทำงานอย่างไรและทำร้ายเราอย่างไร จะแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงอย่างไร ช่วยให้รู้จักและเปลี่ยนแปลงตัวเอง รวมถึงปรับปรุงความสัมพันธ์ในครอบครัว... (คำนำ)

หนังสือที่มียอดขายมากกว่า 1 ล้านเล่มในประเทศจีน นำเสนอเนื้อหา

บทที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเป็นศูนย์กลางของครอบครัว – อย่าเอาเกณฑ์ของตัวเองมาวัดกับอีกฝ่าย อย่านำจิตวิทยากฎระเบียบของอำนาจหน้าที่กลับมาบ้าน ลูกไม่ควรเป็นคนที่คุณรักมากที่สุด...

บทที่ 2 การแยกห่างเป็นความแน่นอนของชีวิต – พ่อแม่ไม่ใช่คำตอบของลูก การแยกห่างเป็นความแน่นอนของชีวิต เด็กชายเข้าสู่โลกของผู้ชาย เด็กหญิงเข้าสู่โลกของผู้หญิง การตามใจลูกที่จริงคือการตามใจตัวเอง ความรักที่สร้างความอึดอัดมาจากความเห็นแก่ตัว การแบ่งแยกด้านจิตใจเกิดขึ้นได้อย่างไร วัยรุ่นที่ขมขื่น บ่มเพาะโรคทางประสาท ถ้าเด็กมีปัญหา ผู้ใหญ่ควรทบทวนตัวเอง...

บทที่ 3 อย่าเอาความกังวลถ่ายโอนไปที่ลูก – ทำไมเด็กถึงให้อินเทอร์เน็ตเป็นที่ ลูกสอบตกเป็นประจำอาจมีเรื่องในใจ เผชิญความสำเร็จและความล้มเหลวในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปพร้อมลูก ให้ความรู้กับลูกไม่สู้ให้ความรักกับลูก การสั่งสอนทำเพื่อเด็กหรือเพื่อผู้ใหญ่ ลูกเป็นเทพปกป้องของครอบครัวไม่ได้...

บทที่ 4 ครอบครัวแบบจีน – ความกตัญญูโดยไม่ไตรตรองฝึกฝนอย่างไร ห่วงโซ่วงจรของครอบครัวจีน 6 คำโกหกที่มีความห่วงใย รูปแบบความรักของคนจีน...

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


LOCATIONCALL#STATUS
Central Library (5th Floor)306.8 อ868ท 2562CHECK SHELVES
Central Library (5th Floor)306.8 อ868ท 2562CHECK SHELVES

การพัฒนากระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย

การพัฒนากระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ลักษณะความเข้มแข็งของครอบครัว วิธีและปัจจัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย 2) พัฒนากระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย 3) เสนอแนวทางการใช้กระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย ระเบียบวิธีที่ใช้ในการวิจัย คือ การวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการศึกษาแบบพหุกรณีศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสารและสื่อ แบบสัมภาษณ์ และประเด็นสนทนากลุ่ม โดยการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลคุณลักษณะของบริบทสังคมไทยที่มีในครอบครัวนำไปใช้ในการวิเคราะห์เนื้อหาของทุกวัตถุประสงค์ โดยมีวิธีการดำเนินการวิจัย (1) เพื่อศึกษาวัตถุประสงค์ที่ 1: ศึกษาเอกสารและสื่อจำนวน 12 รายการ และสัมภาษณ์เชิงลึก ครอบครัวที่มีความเข้มแข็งจำนวน 15 ครอบครัว (2) เพื่อศึกษาวัตถุประสงค์ที่ 2: สัมภาษณ์ครอบครัวที่มีความเข้มแข็ง 15 ครอบครัวเดิม และการสนทนากลุ่มครั้งที่ 1 (3) เพื่อศึกษาวัตถุประสงค์ที่ 3: สนทนากลุ่มครั้งที่ 2 และสรุปแนวทางการใช้กระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย โดยผลการวิจัย พบว่า 1. ข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ที่ 1 มี 3 ส่วน คือ 1.1) ลักษณะความเข้มแข็งของครอบครัว มี 9 ประการ ดังนี้ (1) มีสัมพันธภาพที่ดี (2) รู้บทบาทหน้าที่ของตน (3) การยึดมั่นคำสัญญา เชื่อใจ และมีความเชื่อ (4) มีการสื่อสารระหว่างกันและกันในด้านบวก (5) มีทุนทางสังคม (6) มีความสามารถในการพึ่งตนเอง (7) มีความสามารถในการจัดการปัญหา (8) มีหลักคำสอนศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจในครอบครัว (9) มีลักษณะความเป็นพ่อแม่ต้นแบบและเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต 1.2) วิธีการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย มี 6 ประการ ดังนี้ (1) การพูดคุย สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (2) การทำตัวเป็นแบบอย่าง (3) การปรับตัว การปรับวิธีคิด การปรับความเชื่อ และความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง (4) การเรียนรู้ในครอบครัว (5) การปลูกฝังให้เป็นครอบครัวคุณธรรม (6) การเรียนรู้ทักษะชีวิตและทักษะการอยู่ร่วมกันกับคนอื่น 1.3) ปัจจัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย มี 8 ปัจจัย ดังนี้ (1) ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม (2) ปัจจัยด้านการดำเนินชีวิต (3) ปัจจัยด้านสัมพันธภาพ (4) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจของครอบครัว (5) ปัจจัยด้านสุขภาพของครอบครัว (6) ปัจจัยด้านการสื่อสารทัศนคติเชิงบวก (7) ปัจจัยด้านคุณธรรมจริยธรรมและวัฒนธรรมการเรียนรู้ (8) ปัจจัยด้านความมีศาสนา 2. ข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ที่ 2 คือ กระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย มี 6 ขั้นตอน ดังนี้ 2.1) ทำความเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน 2.2) วางเป้าหมาย 2.3) กำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกัน 2.4) ปฏิบัติตามแนวคิดร่วมกัน 2.5) ร่วมพูดคุยกันหลังปฏิบัติ 2.6) ทบทวนและปรับพัฒนา 3. ข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ที่ 3 คือ แนวทางการใช้กระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในบริบทสังคมไทย ประกอบด้วย ความเชื่อพื้นฐาน ปัจจัยสนับสนุน วิธีการ และเงื่อนไขการใช้ และผู้วิจัยเสนอระดับการใช้ ประกอบด้วย 3.1) ระดับนโยบาย แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ (1) นโยบายการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในครอบครัว และ (2) นโยบายส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว และ 3.2) ระดับปฏิบัติการ แบ่งเป็นระดับ 4 ส่วน คือ (1) บุคคล/ตนเอง (2) ครอบครัว (3) โรงเรียน (4) ชุมชน (บทคัดย่อ)

วิทยานิพนธ์ฉบับออนไลน์ http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64764

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550: จากเจตนารมณ์สู่การปฏิบัติ

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550: จากเจตนารมณ์สู่การปฏิบัติ

การวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ข้อ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและสถานการณ์ของสตรีที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว หลังจากที่มีการนำพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ไปบังคับใช้ 2) เพื่อศึกษาแนวคิด ที่มา เจตนารมณ์และกระบวนการออกพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 โดยศึกษาเปรียบเทียบจากปฏิญญาว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อสตรี (Declaration on the Elimination of Violence Against Women) 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และผลกระทบต่อหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย สตรีที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรง และผลกระทบต่อสังคม ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 และ 4) เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของกระบวนการออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพัฒนากระบวนการออกกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเสริมพลังสตรีที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรง โดยผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ และใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interviews) เพื่อรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่าเจตนารมณ์ในการออกกฎหมายคือ 1) เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐและประชาชนเข้ามามีส่วนในการรักษาสิทธิต่อเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัวได้รับความคุ้มครองจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม 2) เพื่อใช้กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวแทนการใช้กฎหมายอาญา กรณีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว 3) เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด และปกป้องคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง 4) เพื่อรักษาสถานภาพความเป็นครอบครัว เมื่อนำพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ไปใช้บังคับ พบว่ามีปัญหาหลัก 5 ประการ ดังนี้ 1) ในมาตรา 5 ต้องให้มีการร้องทุกข์ให้เป็นคดีก่อนแล้วจึงมีกลไกในการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว การฟื้นฟูและปรับปรุงพฤติกรรม 2) เปิดโอกาสให้ยอมความได้ในทุกชั้นของกระบวนการยุติธรรม 3) เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ประสานกันระหว่างหน่วยงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก 4) ความไม่รู้กฎหมายของประชาชน และ 5) มีงบประมาณไม่เพียงพอสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการ สิ่งเหล่านี้ควรเร่งแก้ไขปรับปรุงให้กฎหมายมีความชัดเจน สร้างแนวทางการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ ตลอดจนสร้างความรู้เรื่องกฎหมายให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงสามารถใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองได้ (บทคัดย่อ)

วิทยานิพนธ์ฉบับออนไลน์ http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/64828

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


เพศต้องห้าม: การวิเคราะห์ในเชิงอาชญาวิทยาและวิพากษ์โดยใช้ทฤษฎีเควียร์ถึงความรุนแรงในครอบครัวต่อทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในสังคมไทย

เพศต้องห้าม: การวิเคราะห์ในเชิงอาชญาวิทยาและวิพากษ์โดยใช้ทฤษฎีเควียร์ถึงความรุนแรงในครอบครัวต่อทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในสังคมไทย

งานวิจัยเป็นการศึกษาถึงปัญหาความรุนแรงในครอบครัวของสังคมไทยต่อทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ซึ่งมีรูปแบบของสาเหตุความรุนแรงที่มี “ลักษณะพิเศษ” เนื่องจากการใช้ความรุนแรงต่อทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) นั้น ล้วนเกิดจากการมลทินประทับ (Stigmatization) ว่าบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างจากบรรทัดฐานทางสังคมนั้นเป็นสิ่งที่ “ผิดปกติ” และ “น่าอับอาย” จึงส่งผลให้พ่อและแม่เลือกวิธีการใช้ความรุนแรงในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบี่ยงเบน (Deviant Behavior) ของทายาทให้กลับสู่ความเป็น “ปกติ” ตามบรรทัดฐานของสังคมที่ได้กำหนดไว้ จากการศึกษาวิจัย พบว่า สาเหตุของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวต่อทายาทเพศต้องห้าม (LGBTQ) ของสังคมไทย ล้วนเกิดจากการมลทินประทับ (Stigmatization) ของสมาชิกในครอบครัว ว่าเป็นสิ่งที่ “แตกต่าง” ไปจากบรรทัดฐานทางสังคมโดยทั้งสิ้น ซึ่งการมลทินประทับต่อเพศสภาพที่หลากหลาย (LGBTQ) ของครอบครัวในสังคมไทยสามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้ 1) การมลทินประทับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ว่าเป็นผู้ที่มีความ “ผิดปกติ” “วิปริต” หรือเป็นความบกพร่องทางจิตรูปแบบหนึ่ง 2) การมลทินประทับว่าการมีทายาทชายที่เป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) เป็นการบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของครอบครัว 3) การมลทินประทับว่าทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ไม่สามารถสืบต่อสกุล / วงศ์ตระกูลได้ 4) การมลทินประทับว่าอนาคตของทายาทชายที่เป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) จะต้องเผชิญกับความล้มเหลวในชีวิต ซึ่งจากการวิพากษ์โดยทฤษฎีเควียร์ (Queer Theory) ต่อการมลทินประทับของครอบครัวไทยต่อทายาทชายที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ทั้ง 4 รูปแบบ ก็ถือว่าเป็นการยืนยันถึงการ ”ดำรงอยู่” ของบรรทัดฐานทางสังคมแบบกลุ่มคนรักเพศตรงข้าม (Heteronormativity) ว่ายังคงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยอยู่ ทั้งนี้ แนวทางการยุติความรุนแรงความรุนแรงในครอบครัวต่อทายาทเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับความร่วมมือจากครอบครัว ชุมชน และภาครัฐในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ควบคู่ไปกับการรื้อถอนการประกอบสร้างทางสังคม (Deconstruction) ว่าด้วยเรื่องของไม่เท่าเทียมทางเพศที่เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทย เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเสมอภาคกันทางเพศ ตลอดจนการเคารพสิทธิและเสรีภาพในการเป็น “มนุษย์” คนหนึ่ง (บทคัดย่อ)

วิทยานิพนธ์ฉบับออนไลน์ http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/70426

หนังสือแนะนำ “ครอบครัว” จัดแนะนำที่ชั้น 1 สำนักงานวิทยทรัพยากร เดือน เมษายน 2565


Collection